×

แบงก์ชาติทั่วโลกย้ำชัดคริปโตยังไม่ใช่สกุลเงินจริง แค่ช่วยทำให้ธุรกรรมการเงินคล่องตัวขึ้นเท่านั้น

24.05.2022
  • LOADING...
คริปโต

หนึ่งในประเด็นร้อนแรงสำหรับการประชุมระดับโลก World Economic Forum ที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ก็คือ บทบาทและสถานะของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin หรือ Stablecoin ที่แม้จะขยายตัวเติบโตและได้รับการยอมรับมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ในมุมมองของบรรดาธนาคารกลางและหน่วยงานที่กำกับดูแลนโยบายการเงินทั่วโลกต่างเห็นตรงกันว่า สกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งหมดยังไม่สามารถทำหน้าที่เหมือนสกุลเงินจริงๆ ได้

 

โดย คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวอย่างชัดเจนว่า Bitcoin อาจเรียกเป็นเหรียญได้ แต่ก็ไม่ใช่เงินจริงๆ ไม่ใช่เครื่องมือเก็บมูลค่าที่มีความมั่นคงปลอดภัย ขณะที่ Stablecoin ซึ่งตรึงมูลค่าไว้กับเงินดอลลาร์ ก็ไม่ได้เป็นการตรึงไว้จริงๆ แต่อาศัยระบบอัลกอริธึมเป็นหลัก

 

ทั้งนี้จอร์เจียวาเปรียบเทียบว่า Stablecoin อย่าง TerraUSD ที่ไม่ได้มีเงินดอลลาร์มาหนุนจริงๆ ก็เหมือนกับโครงสร้างของพีระมิด ที่ในท้ายที่สุดก็จะพังทลายลงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“เมื่อเรามองไปที่ Stablecoin สิ่งที่เห็นก็คือจุดเริ่มต้นที่ก่อความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่ หาก Stablecoin ได้รับการสนับสนุนด้วยสินทรัพย์แบบหนึ่งต่อหนึ่งจริงก็ย่อมจะพอมีเสถียรภาพอยู่บ้าง แต่เมื่อไม่มีทรัพย์สินหนุนหลัง อาศัยแค่อัลกอริธึม แถมยังสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทน 20% Stablecoinนั้นๆ ก็คือพีระมิด” จอร์เจียวากล่าว

 

ด้าน ฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ประธานธนาคารกลางฝรั่งเศส กล่าวว่า คริปโตไม่ควรเป็นบรรทัดฐานที่น่าวางใจสำหรับการชำระเงิน เพราะการมีสถานะในการชำระเงิน หมายความว่า ใครบางคนต้องรับผิดชอบต่อมูลค่าของสกุลเงินนั้นๆ และต้องได้รับการยอมรับในระดับสากลให้เป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้คริปโตในเวลานี้ไม่มี

 

ยิ่งไปกว่านั้นประธานธนาคารกลางฝรั่งเศสยังย้ำว่า สถานะของคริปโตยังไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นได้ เพราะสภาพคล่องค่อนข้างผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดคริปโต

 

แม้จะไม่ยอมรับสถานะของคริปโต และธนาคารกลางทั้งหลายต่างเห็นด้วยให้มีการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลกลาง (CBDC) ของแต่ละประเทศให้เกิดขึ้น โดยมีรายงานว่าธนาคารกลางของหลายประเทศในเวลานี้กำลังเร่งเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ของการออกสกุลเงินดิจิทัลกลางเพื่อนำมาใช้งาน หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย

 

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แบงก์ชาติไทยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ไม่ได้ต้องการเห็นสกุลเงินดิจิทัลเป็นบรรดทัดฐานของการชำระเงิน

 

ขณะที่วิลเลอรอยยกตัวอย่างกรณีของเอลซัลวาดอร์ที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนอย่างรุนแรงของ Bitcoin ว่าเป็นความเสี่ยงที่เอลซัลวาดอร์ต้องเผชิญ และจะดีกว่าหากประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์จะเข้าถึงเงินยูโรมากกว่า Bitcoin

 

ด้านจอร์เจียวามองว่า เงินดิจิทัลสามารถเป็น ‘สินค้าสาธารณะระดับโลก’ ที่สามารถช่วยให้ผู้คนส่งเงินข้ามพรมแดนได้ กุญแจสำคัญคือการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการโอนสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับสกุลเงินที่มีเงินสำรองอยู่อย่างดอลลาร์และยูโร

 

ขณะเดียวกันผู้ร่วมอภิปรายเกือบทั้งหมดเห็นตรงกันว่า สกุลเงินดิจิทัลขณะนี้ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งในการพัฒนา ก่อนที่จะสามารถกลายเป็นเงินกระแสหลักสำหรับผู้บริโภค ซึ่งในระหว่างนี้รัฐบาล ธนาคารกลาง และสถาบันการเงินชั้นนำ ต้องเร่งหารือข้อดี ข้อเสีย รวมถึงจัดทำมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสมต่อไป

 

ความเห็นทั้งหมดมีขึ้นในขณะที่ สก็อตต์ ไมเนิร์ด หัวหน้าการลงทุน Guggenheim ออกมาคาดการณ์ว่ามูลค่าของ Bitcoin มีสิทธิ์ร่วงลงจากระดับปัจจุบันแตะ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนที่ลดลงมากกว่า 70%

 

หลายฝ่ายมองว่าหากการคาดการณ์ของไมเนิร์ดเป็นจริง ก็จะสร้างความเสียหายให้กับ Bitcoin และตลาดสกุลเงินดิจิทัลในวงกว้าง ที่เพิ่งจะสูญมูลค่ากว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดือนที่ผ่านมา

 

อ้างอิง: 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising