นวัตกรรม BEST Tracking Alert เบื้องหลังการเติบโต 380% ของ ‘BEST Express’

หากพูดถึงหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศไทย ไม่มีชื่อของบริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ ‘เบสท์ เอ็กซ์เพรส’ คงเป็นไปไม่ได้ แม้จะเพิ่งก้าวเข้ามาทำธุรกิจในไทยได้ไม่นาน แต่ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ด้านโลจิสติกส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย

 

เบสท์ เอ็กซ์เพรส แบรนด์ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนเอกชน หนึ่งในห้าแถวหน้าของประเทศ นำเสนอนวัตกรรมบริการ BEST Tracking Alert สู่การรับรางวัล ‘สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2564 จากทางนิตยสาร Business+ สาขา นวัตกรรมบริการด้านระบบโลจิสติกส์’

มร.เจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ทางนิตยสาร Business+ ว่า “ปีนี้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส จะเติบโตได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ New Normal ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากสถานการณ์โควิดในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตควบคู่กับธุรกิจโลจิสติกส์ ส่งผลให้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส มียอดขนส่งพัสดุเติบโตสูงถึง 380% หรือเทียบเท่าจำนวนพัสดุที่หลั่งไหลเข้ามากว่า 300,000 ชิ้นต่อวัน กับจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการมากถึง 835 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ

 

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส มีความได้เปรียบในการแข่งขันของตลาดขนส่งพัสดุด่วน และได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2564 (Product Innovation Awards 2021) จากทางนิตยสาร Business+ ในสาขา สินค้าประเภทบริการ กลุ่มบริการขนส่ง คือ บริการ ‘BEST Tracking Alert’ ซึ่งเป็นบริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติ (Automatic Tracking System) แบบ Real-time ผ่าน LINE Official Account นับเป็น ‘เจ้าแรกของวงการขนส่งโลจิสติกส์’ ที่มีการพัฒนานวัตกรรมการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติแบบเรียลไทล์ ซึ่งเชื่อมต่อ API (Application Programming Interface) ระบบขนส่งเข้ากับระบบหลังบ้านของ LINE Official Account เพื่อให้ระบบ AI หลังบ้านเป็นตัว Alert แจ้งเตือนสถานะพัสดุที่จัดส่งในแต่ละครั้งอย่างถูกต้องและแม่นยำ

 

ซึ่งจะช่วยสร้างความสบายใจให้กับผู้ขายสินค้าออนไลน์ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ท่ามกลางการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างไม่หยุดยั้ง ปัจจุบัน LINE Official Account ของ BEST Express ประเทศไทย มีผู้ใช้บริการมากถึง 102,084 คน รวมถึงช่องทางอื่น ๆ อย่าง BEST Express Application ด้วยระบบที่มีการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติเหมือนกับช่องทาง LINE Official Account เช่นกัน

มร. เจสัน กล่าวเพิ่ม “เบสท์ เอ็กซ์เพรส นอกจากจะมีนวัตกรรมด้านการบริการที่โดดเด่นตอบสนองผู้ใช้บริการในโลกยุคดิจิทัลแล้ว บริษัทฯ ยังตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็นผู้นำแถวหน้าของโลจิสติกส์ 1 ใน 3 ของประเทศภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยปีนี้เรามีแผนเปิดศูนย์กลางกระจายสินค้าแห่งใหม่ย่านพระราม 2 ที่ใหญ่และมากพร้อมด้วยนวัตกรรมและประสิทธิภาพในการรองรับจำนวนพัสดุที่เข้ามาอย่างมหาศาล

ตลอดจนพร้อมแล้วที่จะดันการขยายสาขาเพิ่มมากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศ รวมถึงตั้งเป้าหมายเชื่อมต่อเครือข่ายโลจิสติกส์ทั้ง 5 ประเทศ ที่ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ได้เปิดทำการแล้ว อาทิ ประเทศเวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และกัมพูชา เพื่อพัฒนาเครือข่ายบริการระบบโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากยิ่งขึ้น สู่การเป็นแบรนด์โลจิสติกส์แถวหน้าของเอเชีย”

ปัจจุบัน บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการให้บริการในประเทศอยู่ 2 บริการหลัก ได้แก่ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) บริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศ และ BEST Supply Chain (เบสท์ ซัพพลายเชน) บริการการจัดการคลังสินค้าและบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross border) ที่สามารถให้บริการขนส่งสินค้าจากไทยไปจีน และจีนมาไทย หรือไทยไปประเทศอื่น ๆ กว่า 34 ประเทศทั่วทุกมุมโลก

มร. เจสัน ปิดท้ายว่า “ปัจจุบันเรายังคงมองหานักลงทุนรายใหม่ที่กำลังสนใจในธุรกิจโลจิสติกส์และเข้ามาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์เปิดแฟรนไชส์หลัก (First Franchise) กับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส มากขึ้น เพื่อร่วมคว้าโอกาสและสร้างผลกำไรอันเติบโตมหาศาลของมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ชที่นับวันยิ่งโตมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านการลงทุนเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ BEST Express ได้ที่ LINE Official Account โดยค้นหาคำว่า @BESTFSCENTER หรือคลิกลิงก์ได้ที่ https://lin.ee/jj3oCAb