วานนี้ (3 พ.ค. 2566) มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าววงใน 2 รายของทวิตเตอร์ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ ทวิตเตอร์ อิงค์ เหลือจำนวนพนักงานที่ทำงานแบบเต็มเวลาเพียง 1,000 คนเท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าจะลดจำนวนลงจนเหลือราว 1,500 คน ตามที่ อีลอน มัสก์ เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซีไว้ แต่ไม่แน่ชัดว่ารวมพนักงานแบบสัญญาจ้างไว้ด้วยหรือไม่

แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า การลดพนักงานจนเหลือราว 1,000 คนนั้น เทียบเท่ากับ มัสก์​ ลดจำนวนพนักงานลงไปเกือบ 90% ของจำนวนพนักงานแต่เดิม ก่อนหน้าที่ มัสก์ จะซื้อกิจการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

พนักงานหลายร้อยคนลาออกก่อนที่ มัสก์ จะประกาศแผนการปลดพนักงาน โดยในจำนวนนี้มีรายงานข่าวว่ามีวิศวกรรวมอยู่ด้วยราว 500 คน หลังจากนั้นก็มีการปลดพนักงานออกทุกสัปดาห์โดยมีคำอธิบายเหตุผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย

มัสก์ เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แก่สำนักข่าวบีบีซีว่า ปัญหาก็คือ ทวิตเตอร์ อิงค์ อาจล้มละลายได้ ถ้าหากไม่มีการลดต้นทุนอย่างเร่งด่วน เขายังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ของบริษัทไม่ใช่เรื่องของการเห็นใจหรือไม่เห็นใจพนักงาน แต่เทียบได้กับว่าถ้าหากปล่อยให้เรือจมทั้งลำ ก็จะไม่มีใครรอด

บทสัมภาษณ์ดังกล่าวเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าที่สำนักข่าวนิวยอร์ก ไทม์ส จะรายงานว่า มัสก์ ตัดสินใจตัดจำนวนวันลาคลอด/ดูแลบุตรของพนักงานออก จากเดิมที่ลาได้นานถึง 20 สัปดาห์โดยได้รับค่าจ้าง เหลือเพียง 2 สัปดาห์

ในปี 2554 ทวิตเตอร์มีพนักงานราว 400 คน แต่บริษัทมีจำนวนผู้ใช้งานที่มีความเคลื่อนไหวรายวันมากกว่าในปัจจุบันถึง 2 เท่า อัตราการเติบโตของผู้ใช้งานรายวันในปี 2565 อยู่ที่ 16.6% หรือเกือบ 238 ล้านบัญชี

เมื่อปีที่แล้ว มัสก์ เคยพูดว่า ในอนาคต เขาหวังจะให้มีจำนวนผู้ใช้ทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นถึงหลักพันล้านบัญชีหรือมากกว่า

ด้าน แจ็ค ดอร์ซีย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ ซึ่งเคยพูดว่าเขาเชื่อใจ มัสก์ ก็ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการบริหารบริษัทของ มัสก์ นับตั้งแต่มีการเทคโอเวอร์ว่า “ไม่ถูกต้อง” แม้เขาจะยอมรับว่า เขาขยายบริษัทเร็วเกินไปและอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทวิตเตอร์ไปไม่รอดในฐานะบริษัทมหาชน

แหล่งข่าว : foxbusiness.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES