ที่ได้ชื่อว่า ‘ไข้หวัดมะเขือเทศ’ ไม่ใช่เพราะกินมะเขือเทศจนเป็นหวัด แต่เพราะหากติดโรคจะมีผื่นที่มีลักษณะคล้ายกับมะเขือเทศขึ้นตามร่างกาย ล่าสุด อินเดียพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนี้ในรัฐเกรละแล้วอย่างน้อย 80 คนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ด้านนักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามหาคำตอบว่าไวรัสชนิดนี้คืออะไร
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียเพิ่งประกาศแนวทางการป้องกัน การตรวจเชื้อ และการรักษาโรค หลังพบว่ามีการระบาดของไข้หวัดมะเขือเทศในรัฐเกรละ รัฐทมิฬนาฑู รัฐโอริสสา และรัฐหรยาณา
ไข้หวัดมะเขือเทศถูกพบครั้งในเด็กที่อาศัยอยู่ในรัฐเกรละตั้งแต่เดือน พ.ค. ต่อมา บทความจากวารสารทางการแพทย์ Lancet Respiratory Medicine ระบุว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทั้งหมด 82 รายถูกพบว่าติดไวรัสในรัฐเกรละ ในช่วงปลายเดือน ก.ค.
บทความอธิบายว่า ไวรัสมักจะติดในเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ และโรคนี้สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิด อย่างไรก็ดี บทความชี้ว่าการระบาดยังเกิดแค่ในระดับท้องถิ่น ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่ก็จำเป็นที่จะต้องป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป เพื่อป้องกันวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอย
นอกจากนี้ ในบทความได้คาดการณ์ว่า ไข้หวัดมะเขือเทศอาจเป็นผลที่ตามมาจากโรคชิคุนกุนยาหรือไข้เลือดออกก็ได้ และชี้ว่าไวรัสนี้อาจเป็นรูปแบบใหม่ของโรคมือเท้าปาก ที่หากไม่มีการควบคุมป้องกันโรคในเด็ก ก็อาจนำมาสู่การระบาดในหมู่ผู้ใหญ่ได้เช่นกัน
“ไวรัสอาจเป็นรูปแบบใหม่ของโรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดเชื้อทั่วไปมุ่งเป้าไปที่เด็กอายุ 1-5 ปี และผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งบางกรณีศึกษาแสดงให้เห็นว่าโรคมือเท้าปากก็เกิดในผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้เหมือนกัน” บทความระบุ
อาการไข้หวัดมะเขือเทศ มีดังนี้
- มีไข้
- ปวดตามข้อ
- มีผื่นแดงคล้ายมะเขือเทศขึ้นตามร่างกาย สัมผัสแล้วเจ็บ
- ท้องร่วง
- คลื่นไส้อาเจียน
- เมื่อยล้า
ตอนนี้ยังไม่มียาหรือวัคซีนเพื่อรักษาและป้องกันไข้หวัดมะเขือเทศโดยเฉพาะ หากติดเชื้อก็จะต้องรักษาตามอาการ ทั้งนี้ ทางการอินเดียระบุว่าหากใครที่สงสัยว่าติดเชื้อให้กักตัว 5-7 วันหลังเริ่มมีอาการ และให้ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมด
อ้างอิงจาก