ผู้นำศรีลังกาจ่อเรียกทหารงัดเคอร์ฟิวคุมม็อบ หลังเหตุจลาจลรุนแรงประท้วงวิกฤตเศรษฐกิจ เซ่นพิษเงินเฟ้อหนักสุดในเอเชีย นายกฯลาออก ผู้ชุมนุมบุกพังบ้าน ส.ส.
วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 นายมหินทา ราชปักษา นายกรัฐมนตรีศรีลังกา วัย 76 ปี ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อประธานาธิบดีโคฐานภยะ ราชปักษา ผู้เป็นน้องชายด้วยแล้ว เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นหวังแก้ปัญาหาวิกฤตเศรษฐกิจท่ามกลางสภาวะที่ศรีลังกากลายเป็นชาติที่มีอัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยานเร็วที่สุดของเอเชีย
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
การลาออกของนายกฯศรีลังกามีขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางเหตุจลาจลอย่างหนักในกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของประเทศ ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนกับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล ส่งผลให้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย บาดเจ็บไม่น้อยกว่า 140 ราย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลบางราย ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน บุกรุกเข้าทำลายทรัพยสินภายในบ้านพัก เช่นเดียวกับบ้านของตระกูลราชปักษา ทางใต้ของเขต Hambantota มีรายงานถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่พยายามบุกเข้าบ้านพักของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม นายโคฐานภยะ ราชปักษา เป็นน้องของนายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่ง ทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ หลังเหตุชุมนุมดังกล่าวที่ประชาชนเดินขบวนขับไล่รัฐบาล ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า ราชปักษาผู้น้องอาจเตรียมใช้มาตรการเคอร์ฟิวพร้อมสั่งระดมกองกำลังทหารเข้าควบคุมจลาจล
ทั้งนี้ ธนาคารกลางศรีลังกา เปิดเผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งไปถึง 29.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และการเพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ราคาสินค้าอาหารในศรีลังกาเพิ่มขึ้น 46.6% ส่วนสินค้าที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้น 22%