โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

งานวิจัย นศ.ป.เอกเภสัช “มหิดล” ประเมินผลกระทบเชื้อดื้อยา

สยามรัฐ

อัพเดต 13 ก.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 13 ก.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • สยามรัฐออนไลน์
งานวิจัย นศ.ป.เอกเภสัช “มหิดล” ประเมินผลกระทบเชื้อดื้อยา

เชื้อดื้อยาเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจของประชากรโลก เนื่องจากมีการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เชื้อแบคทีเรียมีการปรับตัว จนทำให้ยาต้านจุลชีพที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถรักษาโรคติดเชื้อที่เคยรักษาได้

ในขณะที่ Covid-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในปัจจุบันเป็นเรื่องของไวรัส ซึ่งเป็นอีกประเด็นทางการแพทย์ เนื่องจากวิธีการรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียและไวรัสมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีความเกี่ยวเนื่องกันคือ ถึงแม้จะมีการติดเชื้อไวรัสระหว่างการรักษา ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรักษาตามอาการ ซึ่งหากติดเชื้อแบคทีเรียก็ต้องรักษาแบคทีเรีย และถ้าแบคทีเรียที่ติดเชื้อเกิดดื้อยาก็จะเป็นปัญหาในทำนองเดียวกัน

น.ส.ตวงรัตน์ โพธะ นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารเภสัชกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีอาจารย์ที่ปรึกษาหลักคือ รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรอาทร ริ้วไพบูลย์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และอาจารย์ที่ปรึกษาร่วม ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กำธร มาลาธรรม หน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ Professor Dr. Peter Coyte จาก Institute of Health Policy Management and Evaluation, School of Public Health, University of Toronto ประเทศแคนาดา ได้ทำวิจัยเรื่อง "การวิเคราะห์ภาระทางระบาดวิทยาและภาระทางเศรษฐศาสตร์ของปัญหาเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพในประเทศไทย" ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบเสนอผลงานชิงรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่น ประจำปี 2563ของบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล

รศ.ดร.เภสัชกรอาทรได้กล่าวแนะนำผลงานวิจัยของ น.ส.ตวงรัตน์ โพธะ ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาหลักว่า นักศึกษาได้ทำงานวิจัยวิทยานิพนธ์เพื่อศึกษาผลกระทบของโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลจากกลุ่มเชื้อแบคทีเรียสำคัญที่ดื้อยาต้านจุลชีพหลายขนาน โดยใช้ข้อมูลปฐมภูมิจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลด้านระบาดวิทยาและผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ให้กับผู้กำหนดนโยบายในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพของประเทศไทยต่อไป

หลักสูตรปริญญาเอกสาขาบริหารเภสัชกิจ ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นสาขาเภสัชศาสตร์สังคมเศรษฐศาสตร์ และการบริหารหลักสูตรนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 มีนโยบายให้นักศึกษาเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์จากปัญหาหรือโจทย์วิจัยของหน่วยงานหรือประเทศของนักศึกษาเอง เนื่องจากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยคณะเภสัชศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างคนให้เป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่แก่สังคมไทยและสังคมโลก ให้นักศึกษาได้สำเร็จการศึกษาออกไปเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและคุณธรรม ใช้ความรู้ที่ได้รับไปสร้างประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ

ด้าน น.ส.ตวงรัตน์ ได้กล่าวถึงผลงานวิจัยว่า เป็นการศึกษาที่ศึกษาทั้งผลกระทบด้านระบาดวิทยา และผล กระทบด้านเศรษฐศาสตร์จากโรคติดเชื้อดื้อยาที่เก็บข้อมูลปฐมภูมิ แล้วสร้างแบบจำลอง เป็นข้อมูลระดับประเทศ เพื่อใช้ในการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติได้มีการเก็บข้อมูลปฐมภูมิจากโรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเลือกผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรีย 5 ชนิด ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล ได้แก่


รศ.ดร.เภสัชกรอาทร

A. baumannii,E. Coli, K. pneumoniae,P. aeruginosaและS. Aureus และติดเชื้อที่ 3อวัยวะสำคัญได้แก่ กระแสเลือด ทางเดินปัสสาวะ และทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยเก็บข้อมูลลักษณะผู้ป่วยข้อมูลทางคลินิก การดูแลรักษา และต้นทุนจากฐานข้อมูลโรงพยาบาลและสัมภาษณ์ผู้ป่วยหรือญาติเพื่อเก็บข้อมูลต้นทุนที่เกิดกับผู้ป่วยและครอบครัว ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมที่อาจใช้บริการในสถานพยาบาลอื่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าจ้างผู้ดูแล และต้นทุนการเสียเวลาของผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลผู้ป่วย

จากนั้นได้นำข้อมูลเหล่านี้ มาวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ พบว่า ในปี 2555 ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ 111,295 คน เสียชีวิต 48,258 คน และต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลนานขึ้น 123,000 วัน แต่หากสามารถป้องกันผู้ป่วยจำนวนนี้จากการติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพได้ จะสามารถลดภาระต้นทุนค่ารักษาพยาบาลลงได้ประมาณ 72,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นค่ายาต้านจุลชีพ 8,300 ล้านบาท เมื่อรวมต้นทุนที่เกิดกับผู้ป่วยและญาติ เป็นต้นทุนรวมของสังคมประมาณ 134,500 ล้านบาท
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ให้เห็นผลกระทบขนาดใหญ่ของปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพ ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นระบบของประเทศ

น.ส.ตวงรัตน์ จะเสนอผลงานในกลุ่มที่ 3 วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์สุขภาพประยุกต์ระดับปริญญาเอก ในวันที่ 14 ก.ค.63 เวลา 13.30 – 15.00 น. ผ่าน Zoom ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียด และลงทะเบียนเพื่อเข้าฟังแบบออนไลน์ได้ที่ https://www.facebook.com/grad.mahidol สอบถาม email : veerachat.pan@mahidol.ac.th

ฐิติรัตน์ เดชพรหม มหาวิทยาลัยมหิดล

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0