×

EU ขู่แบน Twitter ในยุโรป หาก ‘อีลอน มัสก์’ ปล่อยให้แพลตฟอร์มเป็นสวรรค์ของเสรีภาพในการพูด

01.12.2022
  • LOADING...

เรื่องราวอันน่าปวดหัวของ อีลอน มัสก์ หลังเข้าซื้อ Twitter ยังไม่จบสิ้น ล่าสุดมหาเศรษฐีเทคโนโลยีอยู่ภายใต้แรงกดดันครั้งใหม่จากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่เขาต้องการผลักดันให้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นสวรรค์ของเสรีภาพในการพูด

 

Financial Times รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปขู่แบน Twitter เว้นแต่จะปฏิบัติตามกฎการควบคุมเนื้อหาที่เข้มงวด ขณะที่ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันกำลังทบทวนการซื้อเครือข่ายสังคมออนไลน์ของเขา

 

คำเตือนจากบรัสเซลส์เกิดขึ้นในการสนทนาทางวิดีโอระหว่าง มัสก์ และ เธียร์รี เบรตัน กรรมาธิการของสหภาพยุโรป ที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามกฎดิจิทัล ซึ่งเขาได้บอกมัสก์ว่า Twitter ต้องปฏิบัติตามรายการตรวจสอบกฎต่างๆ รวมถึงเลิกใช้แนวทาง ‘ตามอำเภอใจ’ เพื่อคืนสถานะผู้ใช้ที่ถูกแบนและยอมรับการตรวจสอบโดยอิสระของแพลตฟอร์มภายในปีหน้า

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

มัสก์ได้รับคำเตือนว่าหากไม่ปฏิบัติตามกฎเหล่านั้น Twitter ก็เสี่ยงที่จะละเมิดกฎหมาย Digital Services Act ฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่กำหนดมาตรฐานระดับโลกว่า Big Tech จะต้องควบคุมดูแลเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตอย่างไร

 

เบรตันย้ำว่า Twitter อาจถูกแบนทั่วยุโรปหรือถูกปรับสูงถึง 6% ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลกหากฝ่าฝืนกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้มัสก์กล่าวว่า Twitter จะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

ในบล็อกโพสต์ Twitter กล่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ และทีมความไว้วางใจและความปลอดภัยยังคงแข็งแกร่งและมีทรัพยากรที่ดี แต่เสริมว่า “แนวทางของเราในการบังคับใช้นโยบายจะพึ่งพาการขยายเนื้อหาที่ละเมิดมากขึ้น เสรีภาพในการพูด แต่ไม่ใช่เสรีภาพในการเข้าถึง”

 

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรปแสดงความกังวลว่า Twitter มีพนักงานเพียงพอที่จะปฏิบัติตามกฎใหม่หรือไม่ หลังจากที่มัสก์ไล่พนักงานออกกว่าครึ่งจาก 7,500 คนในเดือนนี้

 

ในสหรัฐอเมริกา การตรวจสอบ Twitter ของทางการดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่การเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของชาวต่างชาติ The New York Times รายงานว่า เยลเลนนั้นกล่าวถึงคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ Twitter โดยชี้ไปที่การพิจารณาการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อดูว่าพวกเขาสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่

 

เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องมาจากการที่เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล แห่งซาอุดีอาระเบีย ได้โอนหุ้นกว่า 35 ล้านหุ้น หรือ 3.5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Twitter เข้าสู่บริษัทเอกชนแห่งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อกิจการชองมัสก์

 

The Kingdom Holding Company ซึ่งเป็นกองทุนการลงทุนที่ควบคุมโดยเจ้าชาย เป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ รวมถึง Citigroup, Uber และ Lyft ตามเว็บไซต์ของบริษัท

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising