posttoday

โลกกังวล 'สายพันธุ์แลมบ์ดา' ลามหนักหวั่นวัคซีนเอาไม่อยู่

07 กรกฎาคม 2564

โควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดาแพร่แล้วราว 30 ประเทศทั่วโลก หวั่นรุนแรง-ต้านวัคซีน

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์แลมบ์ดา (lambda variant) ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศเปรู ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในความสนใจ (variant of interest) เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นและอาจมีความสามารถในการต้านทานวัคซีน ขณะนี้ได้แพร่ระบาดไปแล้วราว 30 ประเทศทั่วโลก

ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวจะมีความรุนแรงและมีความสามารถในการต้านทานวัคซีนมากกว่าไวรัสสายพันธุ์ก่อนๆ

โดยการศึกษาของคณะวิทยาศาสตร์จากชิลีชี้ให้เห็นว่าสายพันธุ์แลมบ์ดาสามารถติดเชื้อได้รวดเร็วและรุนแรงกว่าสายพันธุ์แกมมาและอัลฟา ทั้งยังสามารถหลบเลี่ยงภูมิต้านทานจากวัคซีนได้ดีกว่าอีกด้วย โดยการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่ฉีดวัคซีนของ Sinovac ครบ 2 เข็ม

ด้านดร.มาร์ตี มาการี จากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่าสายพันธุ์แลมบ์ดาอาจมีความสามารถในการต้านวัคซีน แต่จากการศึกษานั้นเป็นวัคซีนที่ผลิตโดยประเทศจีนซึ่งมีประสิทธิภาพค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับวัคซีนชนิด mRNA

ขณะที่งานวิจัยในสหรัฐซึ่งได้ทำการศึกษาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวพบว่าวัคซีน mRNA ที่ใช้ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์แลมบ์ดา

เช่นเดียวกับทำเนียบขาวซึ่งลงมติเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมาว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้อยู่ยังคงมีประสิทธิภาพในการต้านโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ ไจโร เมนเดซ-ริโก นักไวรัสวิทยาของ WHO ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเยอรมันว่ายังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าสายพันธุ์แลมบ์ดามีความรุนแรงมากขึ้นกว่าสายพันธุ์ก่อนๆ แม้จะเป็นไปได้ว่าอาจมีอัตราการติดเชื้อสูงขึ้น แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นรวมถึงเดลตาและแกมมา

กล่าวคือสายพันธุ์แลมบ์ดามีการกลายพันธุ์ที่อาจเพิ่มความสามารถในการแพร่ระบาดหรือต้านทานภูมิคุ้มกันได้แข็งแกร่งขึ้น แต่ข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปได้จึงยังต้องมีศึกษาเพิ่มเติม

Photo by Saeed KHAN / AFP