โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ข้อควรระวังในการรับประทาน ฟ้าทะลายโจร แก้หวัดหรือไวรัส

BRIGHTTV.CO.TH

เผยแพร่ 24 มี.ค. 2563 เวลา 02.53 น. • Bright Today
ข้อควรระวังในการรับประทาน ฟ้าทะลายโจร แก้หวัดหรือไวรัส

วิธีการรัปประทาน ฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาอาการป่วยจากไข้หวัดหรือไวรัส แพทย์แนะหากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วันแล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างการใช้ยา ควรหยุดใช้และพบแพทย์

กนกพร อะทะวงษา สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า “ไข้หวัด” เป็นโรคที่มักพบในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล จากร้อนเป็นฝน จากฝนเป็นหนาว การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศท าให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ทัน เชื้อไวรัสจึงเข้าฉกฉวยท าให้เกิดอาการ ไข้หวัดตามมา การรักษาอาการหวัดที่ดีที่สุด คือ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ท าร่างกายให้อบอุ่น และอาจ มีการใช้ยาหรือสมุนไพรเข้าเสริมเพื่อบรรเทาอาการ และสมุนไพรไทยที่จัดว่าเป็นหมัดเด็ดในการต่อสู้กับอาการ ไข้หวัดก็คือ “ฟ้าทะลายโจร”

ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees) เป็นสมุนไพรไทยที่มีการใช้กันมา ช้านาน จัดเป็นยาเย็น สรรพคุณใช้แก้ไข้แก้ท้องร่วง เป็นยาธาตุ บำรุงก ลัง สารส าคัญที่พบใน ฟ้าทะลายโจรเป็นสารกลุ่มแลคโตน เช่น แอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide), นีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neoandrographolide), ดีออกซีแอนโดรกราโฟไลด์ (deoxyandrographolide), 14-ดีออกซี-11,12-ไดดี ไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-11,12-didehydroandrographolide) ซึ่งเป็นสารที่ให้รสขม พบมากในส่วนของดอก ใบ และกิ่งก้าน ตามล าดับ ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ

โดยมีข้อบ่งชี้ว่าสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอ และอาการของโรคหวัด เช่น เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย กล้ามเนื้อ น้ ามูกไหล สามารถใช้ทดแทนหรือเสริมการรักษาร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้และในบัญชียาหลัก ได้กำหนดไว้ว่ายาฟ้าทะลายโจร ควรจะมีปริมาณ andrographolide ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6.0 โดยนํ้าหนักขนาดที่แนะน าให้รับประทานเพื่อบรรเทาอาการไข้หวัดและเจ็บคอ คือ รับประทานวันละ 1.5-3 ก. แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน

การศึกษาทางคลินิกถึงประสิทธิภาพของฟ้าทะลายโจรในการบรรเทาอาการไข้หวัด พบว่าให้ผลเหนือกว่า ยาหลอกและเทียบเท่ากับการใช้ยาพาราเซตามอล การศึกษาแบบ double-blind, randomized trial ในผู้ป่วยจ านวน 152 คน แบ่งให้รับประทานฟ้าทะลายโจร ขนาด 3 และ 6 ก./วัน นาน 7 วัน พบว่าฟ้าทะลาย โจรขนาด 6 ก./วัน ให้ผลลดไข้และเจ็บคอได้ดีเทียบเท่ากับกลุ่มที่รับประทานยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มก. ตั้งแต่ช่วงวันที่ 3 ของการรักษา และเมื่อรับประทานครบ 7 วัน จะให้ผลการรักษาไข้หวัดได้ไม่ต่างกัน
ทั้ง 3 กลุ่ม (4) และเมื่อให้ผู้ป่วยไข้หวัด 158 คน ประเมินอาการไข้หวัดที่สังเกตได้ด้วยตัวเอง Visual Analog Scale (VAS) ได้แก่ เจ็บคอ คัดจมูก ปวดศรีษะ รู้สึกไม่สบายตัว นอนไม่หลับ พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดจาก ฟ้าทะลายโจรมีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยส าคัญตั้งแต่ 2 วันแรกหลังการรับประทานแคปซูลผงสารสกัดจากใบ ฟ้าทะลายโจร ขนาด 1,200 มก./วัน โดยลดอาการเจ็บคอ คัดจมูก และนอนไม่หลับได้อย่างมีนัยส าคัญ และ เมื่อรับประทานไป 4 วัน อาการโดยรวมดีขึ้นกว่ากลุ่มยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากการใช้ในรูปแบบของผงใบแล้ว ยังมีการใช้ฟ้าทะลายโจรในรูปของสารสกัดซึ่งรู้จักกันในชื่อยา Kan Jang การศึกษาแบบ non-randomized, double-blind, placebo-controlled trial ในผู้ป่วยที่มี อาการหวัด 61 คน ให้รับประทานยาหลอกหรือยาเม็ด Kan Jang 1,200 มก./วัน (ได้รับ andrographolide 48 มก./วัน) ผลจากการประเมินอาการทางคลินิกโดยแพทย์พบว่าการอักเสบของเยื่อเมือกในช่องจมูก ไซนัสอาการปวดศีรษะ และต่อมน้ าเหลืองอักเสบลดลงอย่างมีนัยส าคัญในกลุ่มฟ้าทะลายโจร และผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีคะแนนรวมของ VAS มากกว่ากลุ่มควบคุม (6) เช่นเดียวกับผู้ป่วยไข้หวัด อายุ18-55 ปีที่รับประทานยาเม็ด Kan jang (ประกอบด้วยสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร ขนาด 85 มก.) ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง จะช่วย บรรเทาอาการหวัด และลดจ านวนวันในการเป็นหวัดได้อย่างมีนัยส าคัญ (Melchior, 1997) การศึกษา เปรียบเทียบฤทธิ์บรรเทาอาการหวัดของยา Kan jang ในผู้ป่วยเด็ก อายุ 4-11 ปีโดยให้รับประทานยา Kan Jang ค รั้ง ล ะ 2 เ ม็ ด รับป ร ะท าน วัน ล ะ 3 ค รั้ง (ร ว มไ ด้ รับ ส า ร andrographolide แ ล ะ deoxyandrographolide 30 มก./วัน) หรือรับประทาน Immunal drop สารสกัดจากต้น Echinacea ซึ่งมี

รายงานว่าสามารถใช้ป้องกันหวัดได้ครั้งละ 10 หยด วันละ 3 ครั้ง หรือยาพาราเซตามอล ครั้งละ 500 มก. วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน กลุ่มที่ได้รับยา Kan jang มีอาการดีขึ้นกว่าทุกกลุ่มอย่างมีนัยส าคัญหลัง รับประทานเพียง 2-3 วัน และการรับประทานฟ้าทะลายโจรในขนาดต่ าอย่างต่อเนื่องยังช่วยป้องกันการเกิดหวัดได้เมื่อให้เด็กนักเรียนรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ขนาดวันละ 200 มก. 5 วันต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 3 เดือน สามารถป้องกันการเกิดหวัดได้ดีโดยพบอัตราการเป็นหวัดในนักเรียนกลุ่มที่รับประทานฟ้าทะลายโจรเพียง 20%

ในขณะที่กลุ่มควบคุมพบอัตราการเป็นหวัด 62% โดยคาดว่าฟ้าทะลายออกฤทธิ์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้อัตราการเป็นหวัดลดตํ่าลง ฟ้าทะลายโจรถือเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างปลอดภัย จากการประเมินความเป็นพิษเมื่อให้อาสาสมัคร ชายหญิงสุขภาพดีจ านวน 20 คน ที่รับประทานแคปซูลฟ้าทะลายโจร ครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ห่างกัน ครั้งละ 8 ชั่วโมง (รวมได้รับวันละ 12 แคปซูล เท่ากับสารสกัดมาตรฐานจากฟ้าทะลายโจร 4.2 กรัม) ติดต่อกัน 3 วัน ซึ่งเป็นขนาดที่แนะน าให้ใช้ตามบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อบรรเทาอาการหวัดและเจ็บคอ ไม่พบความ ผิดปกติหรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นในระหว่างการรับประทาน (9) อย่างไรก็ตามอาจพบอาการข้างเคียง เช่น ทำให้ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้เบื่ออาหาร ปวดเอว วิงเวียนศีรษะ และใจสั่น ข้อควรระวังในการใช้โดยการฉีด หรือใช้ขนาดสูงคือ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ผื่นคัน ลมพิษ จนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรงและช็อค

สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจให้เกิดการแท้ง ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน (ไม่ควรเกิน 7วัน) เพราะอาจท าให้แขนขา ชาหรืออ่อนแรงได้หากใช้ติดต่อกัน 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงระหว่างการใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์ ควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของ เกล็ดเลือด (antiplatelets) เพราะฟ้าลายโจรจะเสริมฤทธิ์ของยา ท าให้เลือดหยุดไหลได้ยาก และระวังการใช้ร่วมกับยาลดความดันในเลือดเนื่องจากอาจเสริมฤทธิ์กันได้(3)

วิธีการใช้แบบง่ายตามคู่มือสมุนไพรในสาธารณสุขมูลฐาน

  • ยาลูกกลอนนาใบฟ้าทะลายโจรสดตากแห้งในร่ม บดเป็นผงละเอียด น ามาปั้นกับน้ าผึ้งเป็นยาลูกกลอน ขนาดปลายนิ้วก้อย ผึ่งลมให้แห้ง รับประทาน 3-6 เม็ด วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
  • ยาต้ม ใช้ใบฟ้าทะลายโจร 1-3 ก ามือ ต้มกับน้ า 10-15 นาทีดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง (หากใช้บรรเทา อาการเจ็บคอ ใช้ใบฟ้าทะลายโจร 1 กำมือ)
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0