‘Shower Effect’ คิดงานไม่ออก ลองไป ‘อาบน้ำ’ ช่วยปิ๊งไอเดียสุดปัง?

‘Shower Effect’ คิดงานไม่ออก ลองไป ‘อาบน้ำ’ ช่วยปิ๊งไอเดียสุดปัง?

เคยสงสัยไหม ทำไมเวลา “อาบน้ำ” ถึงมีความคิดสร้างสรรค์มากเป็นพิเศษ? ในทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่าสิ่งนี้คือ “Shower Effect”เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะที่สงบ สมองปลอดโปร่ง จะส่งผลให้สมองแล่น ไอเดียกระฉูด

Key Points:

  • บางครั้งนั่งคิดงานตั้งนานแต่คิดไม่ออก แต่พอลุกไปอาบน้ำ กลับมีไอเดียใหม่ๆ ผุดขึ้นมาในหัว ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์อธิบายสิ่งนี้ว่า “Shower Effect”
  • ความสงบทั้งทางกายและทางใจที่เกิดขึ้นจากการ “อาบน้ำ” เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากกว่าการพยายามนั่งคิดงานอยู่ที่โต๊ะ
  • นอกจากอาบน้ำแล้ว กิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถช่วยให้คิดงานออกเหมือนกัน เช่น ล้างจาน ถูบ้าน หรือการพยายามพาสมองไปสู่ความสงบด้วยตัวเอง

คิดงานไม่ออก ไม่มีไอเดียใหม่ๆ ยิ่งพยายามใช้สมอง ยิ่งเครียด ลองทำหลายวิธีแล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ทำไมพอไป “อาบน้ำ” ก็ปิ๊งไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา ? ..นี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า “Shower Effect” ในทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา ที่สอดคล้องกับกิจวัตรพื้นฐานของมนุษย์

การ “อาบน้ำ” ไม่ใช่แค่การชำระล้างร่างกาย ที่ทำให้เราสบายตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน ส่งผลให้ความคิดสร้างสรรค์พรั่งพรูออกมา จากการศึกษาพบว่า ความคิดดีๆ เกิดขึ้นในที่ทำงานเพียงแค่ร้อยละ 20 เท่านั้น แต่เกิดขึ้นได้มากถึงร้อยละ 80 ในขณะที่ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น อาบน้ำและล้างจาน

อ่านข่าว :

‘ทำงานบ้าน’ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด ทำให้มีความสุข-สมองแล่น

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบางส่วนจาก The Washington Post รายงานว่า นักเขียนมืออาชีพ 98 คน และนักฟิสิกส์ 87 คน บันทึกความคิดเจ๋งๆ ของพวกเขาไว้หลังจากที่ได้มันมาหลังจากช่วงเวลาอาบน้ำด้วย

โดย Jonathan Schooler (โจนาธาน สคูลเลอร์) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์สมอง มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เคยกล่าวว่า “คุณสามารถคิดอะไรได้สำเร็จจากการอาบน้ำ มากกว่าตอนที่อยู่บนโต๊ะทำงาน”

กรุงเทพธุรกิจจะพาไปเจาะลึกลงไปว่าทำไมการ “อาบน้ำ” ถึงมีส่วนช่วยสำคัญในการ “ทำงาน” เชิงสร้างสรรค์ให้สำเร็จลุล่วง

  • ทำไม “Shower Effect” ช่วยให้สมองแล่น?

Shower Effect” หรือ “Shower Power” คือ ผลลัพธ์ที่ได้มาจากการอาบน้ำ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำ แต่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยระหว่างการอาบน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเสียงน้ำ กลิ่นสบู่ ไปจนถึงอุณหภูมิร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ช่วยให้จิตใจมีความสงบมากขึ้น และทำให้สมองได้เข้าสู่โหมดพักผ่อน ลดความตึงเครียดและความเหนื่อยล้า หรือเรียกได้ว่าร่างกายได้รับการปลดล็อกจากภาระต่างๆ ที่พบเจอมา ดังนั้นในขณะที่เราปล่อยใจไปกับการอาบน้ำ สมองและจิตใจที่กำลังสงบจะไปกระตุ้นให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้น

ผลจากงานวิจัยของ Jonathan พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 1,100 คน ระบุว่า มีความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นในช่วงอาบน้ำมากถึงร้อยละ 30 ระหว่างเดินทางร้อยละ 13 และระหว่างออกกำลังกายร้อยละ 11 เขาจึงตั้งข้อสังเกตว่ากิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวันบางอย่าง สามารถทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าตอนนั่งทำงานที่โต๊ะ

เหตุที่ทำให้การ “อาบน้ำ” ส่งผลให้ใครหลายคนปิ๊งไอเดียขึ้นได้นั้น สามารถอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ ได้ดังนี้

1. รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ถือเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้สมองทำงานได้อย่างอิสระไร้แรงกดดัน และไม่มีข้อจำกัดมาตีกรอบ นอกจากนี้ยังส่งผลถึงการใช้ “จิตใต้สำนึก” อีกด้วย โดยเฉพาะกระบวนแก้ปัญหาหรือคิดวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์

2. สิ่งแวดล้อมช่วยให้สมองแล่น เพราะการอาบน้ำเป็นกิจกรรมที่มักจะทำคนเดียว เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้นในระหว่างที่เรากำลังอาบน้ำอยู่ ก็สามารถคิดเรื่องต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัด ไม่มีใครมาคอยตัดสินเหมือนกับตอนที่อยู่กับคนหมู่มาก (โดยเฉพาะที่ทำงาน)

3. ไม่มีใครรบกวนตอนอาบน้ำ เชื่อว่าหลายคนเวลานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะต้องมีสมาธิหลุดกันบ้างเพราะสิ่งเร้ารอบตัว เช่น คุยกับเพื่อนร่วมงาน ส่องโซเชียลมีเดีย เสียงความวุ่นวายภายในออฟฟิศ หรือแม้แต่ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวส่งผลให้สมาธิของเราหายไปด้วย ในขณะที่ การอาบน้ำเป็นสิ่งที่ทำคนเดียว ไม่มีสิ่งอื่นรบกวน เมื่อทุกอย่างเงียบลงจนมีแต่เสียงน้ำ จึงทำให้เรามีามาธิเพิ่มขึ้น

4. สารโดปามีนไหลเวียนได้ดี เมื่อร่างกายของเราสงบ บรรยากาศสงบ สมองปลอดโปร่ง ปริมาณสารโดปามีนก็จะยิ่งหลั่งออกมา ทำให้มีสมาธิและสมองก็มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นนั่นเอง

ด้าน Alice Flaherty (อลิซ ฟลาเฮอร์ตี) นักประสาทวิทยาจาก Massachusetts General Hospital ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์เกี่ยวกับการ “อาบน้ำ” ที่ส่งผลต่อการสร้างสมาธิ ไว้ว่า นักเรียนของเธอเอาแต่นั่งคิดงานอยู่กับโต๊ะจนเครียด เธอเลยแนะนำให้พวกเขาไปอาบน้ำ แล้วก็ได้ผล! เพราะการอยู่ห่างจากโต๊ะ ทำให้เหล่านักเรียนของเธอมีสมาธิมากขึ้น

  • ถ้ายังไม่สะดวก “อาบน้ำ” ต้องทำอย่างไรให้เกิดไอเดีย?

แม้ว่าผลสำรวจและงานวิจัยหลายชิ้นจะพบว่า ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมักเกิดขึ้นตอนอาบน้ำ แต่บางคนอาจไม่สะดวกที่จะอาบน้ำได้ตลอดเวลา เช่น อยู่ที่ออฟฟิศ อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังสามารถกระตุ้นสมองให้ทำงานและเพิ่มไอเดียสร้างสรรค์คล้ายกับช่วงที่เรากำลังอาบน้ำได้เช่นกัน ดังนี้

- ลองปล่อยให้ตัวเองได้หยุดพักสัก 10-15 นาที แล้วลุกไปเดิน ขยับตัวเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อช่วยลดความเครียดที่ต้องเผชิญอยู่ (ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมจริงจัง)

- พาตัวเองออกไปยังสถานที่ใหม่ๆ สำหรับบางคนการที่ต้องอยู่แต่โต๊ะทำงานนานๆ ก็ทำให้สมองล้าได้เช่นกัน ดังนั้นการออกไปพบเจอกับโลกภายนอกบ้างก็ช่วยได้ เนื่องจากได้พบเจอกับสิ่งเร้าใหม่ๆ จึงช่วยให้สมองปลอดโปร่ง

- ลองนำงานหรือไอเดียที่ตัวเองไม่ชอบมาปัดฝุ่น บางครั้งความคิดเหล่านั้นของเราอาจจะดีแล้ว แต่เราไม่ชอบ ณ ตอนนั้น เพราะยังไม่ได้ขัดเกลาความคิดเหล่านั้นให้ดีพอ

- ถ้ายังออกไปไหนไม่ได้ ก็จินตนาการเอาเลย เพราะสถานการณ์การทำงานส่วนใหญ่มักถูกบีบด้วยเวลา จะให้ออกไปเดินเล่น หรือกลับไปอาบน้ำก็คงทำไม่ได้ แต่เราสามารถใช้จินตนาการจากสมองเราได้ โดยการคิดว่าเรากำลังทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ช่วยให้สมองของเราเข้าสู่โหมดพักผ่อนได้เช่นกัน

โดยสรุปแล้ว การ “อาบน้ำ” เป็นเพียงหนึ่งในวิธีที่จะช่วยปล่อยวางความคิดยุ่งเหยิงต่างๆ เพื่อให้สมองเข้าสู่โหมดพักผ่อน เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่บางครั้งอาจได้ผลมากกว่าการนั่งคิดงานอยู่กับโต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำก็ไม่ใช่ทางออกทุกอย่างของปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีวิธีจัดการกับระบบการทำงานของตัวเองอย่างไร

แต่ถ้าตอนนี้ใครกำลังนั่งคิดงานไม่ออกจนปวดหัวอยู่ล่ะก็.. เราก็ขอแนะนำให้ลองไป “อาบน้ำ” ดูก่อน อาจได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าที่คิด

อ้างอิงข้อมูล : The Washington Post, Discover Magazine และ Headspace